กฎ 10,000 ชั่วโมง ใช้ได้ผลกับบางเรื่อง พบหลักการใหม่ แค่ 20 ชั่วโมง ก็โอเคแล้ว by 100WEALTH
กฎ 10,000 ชั่วโมง ใช้ได้ผลกับบางเรื่อง
พบหลักการใหม่ แค่ 20 ชั่วโมง ก็โอเคแล้ว
(สรุปจากTed talk ยอดวิวกว่า 31,626,797)
.
หลายคนอาจรู้จัก “กฎ 10,000 ชั่วโมง” เป็นอย่างดี เพราะมันคือกฎที่กล่าวว่า ถ้าหากคุณอยากเก่งกว่าคนอื่นหรือต้องการเชี่ยวชาญอะไรสักอย่าง คุณต้องใช้เวลาฝึกฝนและทำสิ่งนั้น 10,000 ชั่วโมง เพื่อให้บรรลุ แต่ถ้าหากเราลองคำนวณดูแล้ว มันก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างเยอะอยู่นะ
.
แต่ Josh Kaufman กลับไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้นเพราะแน่นอนว่าคนเราไม่ได้มีเวลามากมายขนาดนั้น แถมความหมายของกฎ 10,000 ชั่วโมงที่ว่ามานี้ก็เพี้ยนมาจากต้นฉบับเยอะ เพราะสาระสำคัญของมันจริง ๆ คือ การก้าวไปสู่จุดสู่สุดในวงการแข่งขันที่สูงและเฉพาะเจาะจงมาก ๆ โดยใช้เวลา 10,000 ชั่วโมง
.
ไม่ใช่การใช้เวลา 10,000 ชั่วโมงในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จนชำนาญตามที่เชื่อกันมา
.
แล้วการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ควรทุ่มเทแรงและเวลาไปเท่าไหร่ถึงจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?
.
Josh Kaufman คนเราจะสามารถเรียนรู้ได้ดีในช่วงชั่วโมงแรก ๆ และจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจากการวิจัยของเขาพบว่า คนเราใช้เวลาเพียงแค่ 20 ชั่วโมงเท่านั้น ในการเรียนรู้ทักษะใหม่ตั้งแต่ศูนย์จนสร้างผลลัพธ์ที่ทำให้คุณประหลาดใจ
.
จากที่เราต้องฝึกฝนวันละ 1 ชั่วโมง จำนวน 27 ปี เพื่อทำให้ได้ครบ 10,000 ชั่วโมง
ตอนนี้คุณสามารถลดเหลือวันละ 1 ชั่วโมง จำนวน 20 วันเพื่อทำให้ได้ครบ 20 ชั่วโมงแล้ว
.
แต่ยังไงก็ตาม การลงทุนในเวลา 20 ชั่วโมงนี้ก็ไม่ได้แปลว่าจะจดจ่อกับมันอย่างไร้ทิศทาง เพราะการทำแบบนั้นอาจไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ดังนั้น Josh Kaufman จึงแนะนำ 4 ขั้นตอนที่สามารถทำให้การพัฒนาใน 20 ชั่วโมงนี้มีประสิทธิภาพที่สุด
.
📖 1. แยกย่อยทักษะออกมาเป็นส่วน ๆ
.
ในความเป็นจริงแล้วการมองทักษะมันคือภาพรวมของผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง เช่น คุณอยากที่จะเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษ สิ่งที่ควรเริ่มต้นไม่ใช่การเรียนภาพรวมทั้งหมด แต่ต้องแยกออกมาเป็นส่วนแยกย่อย ฟัง พูด อ่าน เขียน หรืออาจแบ่งเป็นการใช้หลักแกรมม่า ความหมายของคำศัพท์
.
ยิ่งคุณสามารถแยกทักษะออกมาเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถเรียนรู้และเข้าใจง่ายได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะมันจะทำให้คุณรู้ว่าชิ้นส่วนไหนจะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่แรกได้ก่อน เมื่อรู้แบบนั้นก็จะใช้เวลาได้เรียนรู้และพัฒนาสิ่งนั้นได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
.
📖 2. เรียนรู้ให้มากพอที่จะแก้ไขตัวเองได้
.
เมื่อเราแยกย่อยทักษะออกมาชิ้นส่วนแล้วให้ลองดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราเรียนรู้มัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนคอร์สออนไลน์ อ่านหนังสือ เข้าร่วมอบรมสัมมนา แต่อย่าเอาแต่ละแหล่งข้อมูลนี้มารวมกันจนมากเกิน เพราะจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจ และผลัดวันไปเรื่อย ๆ
.
บางคนอาจเลือกสมัครคอร์สมากมายเพื่อจะได้พัฒนาตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วกลับพบว่าตัวเองไม่ได้มีเวลาพอที่จะไปเรียน และนั่นอาจเป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจก็ได้
.
📖 3. ขจัดอุปสรรคในการเรียนรู้
.
อุปสรรคที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ความยากลำบาก แต่มันคืออารมณ์ต่างหากที่เป็นอุปสรรคเพราะมันจะทำให้เราหลุดโฟกัสจนไม่สามารถเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี โทรศัพท์ บางคนอาจเช็กไอจีสัก 10 นาที แต่รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว
.
📖 4. ฝึกฝนอย่างน้อย 20 ชั่วโมง
.
สิ่งที่ทำให้คนไม่สำเร็จคือกำแพงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา แต่การตั้งมั่นด้วยใจที่แน่วแน่จะทำให้คุณก้าวข้ามกำแพงนั้นไปได้ คุณต้องตั้งเป้าที่จะพัฒนาตัวเองจริง ๆ ถ้าหากไม่พร้อมที่จะทำให้ฝืนยังไงก็ไม่สำเร็จ แต่ถ้าหากใจมา ไฟมาในการเรียนรู้มา ต่อให้มีอุปสรรคอะไรเราก็จะโฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำได้ และผลลัพธ์จะแสดงเป็นรางวัลให้กับเรา
.
คนเราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา แต่มันอยู่ที่ว่าคุณอยากจะเรียนรู้มันหรือไม่ เส้นทางของความสำเร็จมีอุปสรรคคอยอยู่เสมอ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจะก้าวข้ามผ่านมันไปได้หรือจะยอมแพ้กับมันก็เท่านั้นเอง
.
.
อ้างอิง : อยู่ในโพสต์คอมเมนต์แรกครับ
.
เรียบเรียงโดย 100WEALTH
https://www.facebook.com/100wealth/

ใส่ความเห็น